วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คำแปลบทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ

คำแปลบทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ
โดยหลวงตาม้า (พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร)


นะโมพุทธายะ หมายถึง พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
พระพุทธไตรรัตนะญาณ หมายถึง สุดยอดของศีล สมาธิ ปัญญา
มณีนพรัตน์ หมายถึง สมบัติจักรพรรดิ (อันได้แก่สมบัติหลัก 7 ประการ)
ได้แก่ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว นางแก้ว แก้วมณี)
สีสะหัสสะสุธรรมา สีสะ แปลว่า ความคิด หัสสะ แปลว่า มือ ก็คืือ การกระทำ
สุธรรมา คือ การรู้ทั้ง 3 โลกธาตุ รวมความคือ การคิดและลงมือทำ
จนรู้ทั่วทั่ง 3 โลก

พุทโธ ธัมโม สังโฆ หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ยะธาพุทโมนะ หมายถึง พระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้ในอนาคต คือ พระศรีอริยเมตไตรย
(เป็นการไล่สูตรคาถาย้อนกลับแบบโบราณ โดยนำเอาคำ "ยะ" มาตั้งไว้ข้างหน้า หมายถึง
กำลังของพระศรีอริยเมตไตรยเป็นองค์นำ)

พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา หมายถึง การบูชาพระรัตนตรัย
อัคคีทานัง วะรังคันธัง หมายถึง ไฟเผาทำลายกิเลสทั้งภายนอกภายใน
สีวลี จะ มหาเถรัง หมายถึง โชค ลาภ ธุรกิจการงาน ครอบคลุมทั้งหมด
อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ
หมายถึง การบูชา ทั้งหมดทั้งมวลในพระพุทธศาสนา


วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คาถาพระมหาจักรพรรดิ


อานิสงส์ของการสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ

บทสวดมหาจักรพรรดินี้ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นผู้เรียบเรียงขึ้น
เป็นการสวดบูชาพระพุทธเจ้าทั่วทั้งพระนิพพาน ตลอดจนถึงพระธรรมาเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระอริยะสงฆ์และ พระสงฆ์สาวกทั้งมวล เป็นการบูชาพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหม พระอริยะเจ้าทั้งหลาย การสวดครั้งหนึ่ง ๆ เป็นอัญเชิญกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิ ทุก ๆ พระองค์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงกำลังของพระโพธิฐาณของพระโพธิสัีตว์เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และอนาคต อาราธนาเข้าที่กาย ใจ จิต วิญญาณ ของผู้สวด

การสวดครั้งหนึ่งมีอานิสงส์แผ่ไปทั่วจักรวาล สามแดนโลกธาตุ สามารถแผ่นบุญปรับภพภูมิไปทั่วทุกสรรพสัตว์ ตลอดจนเทวดาประจำตัว ญาติมิตร ครอบครัว เจ้ากรรมนายเวร และหากนำบทสวดนี้ไปสวด รหืแผ่ไปในนรก ไฟนรกจะดับชั่วขณะ และบทสวดนี้ยังเป็นการสร้างกำแพงแก้วคุ้มกันตัวอีกด้วย

การอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆฺ์ อัญเชิญพระเข้าตัวนี้ เป็นเพื่อป้องกันภัยและสร้างมหาโชคมหาลาภให้แก่ผู้สวด เนื่องจากได้มีการกล่าวถึงพระสีวลีร่วมอยู่ด้วย

บทมหาจักรพรรดิ นี้มีพลังงานมากมาย เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำไปสวดบริกรรมก่อนหรือระหว่างการนั่งกัมมัฎฐาน ก่อเกิดกระแสพุทธานุภาพครอบครุม และคุมการปฎิบัติภาวนาของเรา หากได้สวดอยู่เป็นประจำ จะสามารถอธิษฐานเรื่องราวใด ๆ ที่มีข้อติดขัด เรื่องร้ายทั้งหลาย ทำให้ผ่านพ้นไปได้ด้วย ดี นำมาซึ่งความเจริญ แก่ผู้สวดทั้งในทางโลก และทางธรรม